วันที่ 2 เมษายน 2568 นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม และกองบริการงานอนุญาตโรงงาน 1 ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ลงพื้นที่สั่งหยุดโรงงานรีไซเคิล 2 แห่ง ในตำบลวังเพลิง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ตามมาตรา 39 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ให้หยุดประกอบกิจการโรงงานทั้งหมดเป็นการชั่วคราว หลังตรวจสอบพบโรงงานลักลอบฝังกากอุตสาหกรรม และมีการประกอบกิจการไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต
โรงงานแห่งแรก “บริษัท เคดีดี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด” ประกอบกิจการเกี่ยวกับหล่อหลอมและสกัดโลหะมีค่า และคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบการกองเก็บสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วภายนอกอาคารโรงงาน โดยไม่มีระบบป้องกันการปนเปื้อนและมาตรการป้องกันผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งระบบบำบัดมลพิษอากาศไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตจนทำให้สารคาร์บอนมอนอกไซด์ที่ระบายออกนอกโรงงานมีค่าเกินมาตรฐาน นอกจากนี้ ยังตรวจพบการลักลอบฝังกลบกากอุตสาหกรรมภายในบริเวณโรงงาน ประมาณ 43,600 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งผลการตรวจวิเคราะห์พบว่ากากอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 เจ้าหน้าที่จึงสั่งการให้โรงงานนำกากอุตสาหกรรมที่ฝังกลบไว้ทั้งหมดไปบำบัดหรือกำจัดให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566 พร้อมทั้งให้ตรวจสอบคุณภาพดินและน้ำใต้ดิน และปรับปรุงระบบบำบัดมลพิษอากาศของกระบวนการผลิตจากเตาหลอมสังกะสีและเตาหลอมทองแดงให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต
สำหรับโรงงานแห่งที่สอง “บริษัท ดี-เวสต์ ยูทิลิเซชั่น จำกัด” ประกอบกิจการเกี่ยวกับรับกำจัดน้ำเสียและของเสียอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ในพื้นที่บริเวณเดียวกับ บริษัท เคดีดี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าภายในอาคารโรงงานมีตะกรันอะลูมิเนียมดรอส (Aluminum Dross) บรรจุถุงบิ๊กแบ็ค จำนวน 295 ถุง อีกทั้งพบการลักลอบฝังกลบกากอุตสาหกรรมอะลูมิเนียมดรอสอยู่ภายในบริเวณโรงงาน ประมาณ 14,220 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งผลการตรวจวิเคราะห์พบว่ากากอุตสาหกรรมและตะกรันอะลูมิเนียมดรอสดังกล่าวเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 เจ้าหน้าที่จึงสั่งการให้โรงงานนำกากอุตสาหกรรมทั้งหมด ทั้งที่กองเก็บอยู่ภายในอาคารและฝังกลบอยู่บริเวณโรงงาน ไปบำบัดหรือกำจัดให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566
ทั้งนี้ กำชับให้โรงงานทั้ง 2 แห่ง ปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาตประกอบกิจการอย่างเคร่งครัด พร้อมเร่งรัดให้ปรับปรุงแก้ไขตามข้อสั่งการให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 หากโรงงานฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าว จะเป็นความผิดตามมาตรา 55 ต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละ 5,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่มีการฝ่าฝืน
#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #DIW #MIND #กระทรวงอุตสาหกรรม #saveอุตสาหกรรมไทย #saveสิ่งแวดล้อม #ตรวจสุดซอย #กากอุตสาหกรรม #สั่งหยุดโรงงาน #โรงงานรีไซเคิล #ลพบุรี