เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายพรยศ กลั่นกรอง มอบหมายกองส่งเสริมเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมโรงงาน นำโดย นายวโรศักดิ์ สันติวราคม ผู้อำนวยการกลุ่มมลพิษน้ำ และนางสาวพนิตตา ตันติอริยทรัพย์ ผู้อำนวยการกลุ่มเทคโนโลยีน้ำอุตสาหกรรม พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่โรงงานของ บริษัท สยามสำลี จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายสำลีและผ้าเปียก เพื่อให้คำแนะนำโรงงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีน้ำอุตสาหกรรมและการจัดการน้ำเสีย ภายใต้โครงการส่งเสริมเทคโนโลยีน้ำอุตสาหกรรม การจัดการน้ำเสีย และตรวจประเมินสถานประกอบการที่ขอการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
กองส่งเสริมเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมโรงงาน มีภารกิจในการส่งเสริมให้โรงงานใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ตามแนวทางการหมุนเวียนน้ำใช้ (Reuse) การปรับปรุงคุณภาพน้ำใช้ให้อย่างเหมาะสมกับการนำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิต (Recycle) สอดคล้องกับการลดน้ำเสียตั้งแต่ต้นทาง (Reduce Volume) และลดความสกปรกของน้ำทิ้งที่ระบายสู่ภายนอก (Reduce Loading) เพื่อให้มีการระบายน้ำออกนอกโรงงานน้อยที่สุด หรือการนำหลักการไม่ระบายน้ำ (Zero Discharge) มาประยุกต์ใช้
วัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการ
1. เพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีในการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การลดปริมาณน้ำใช้ และส่งเสริมเทคโนโลยีการจัดการน้ำเสียให้แก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม สามารถนำความรู้ด้านการลดปริมาณการใช้น้ำ การจัดการน้ำเสีย ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดผลในทางปฏิบัติ
2. เพื่อพัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการภาคอุตสาหกรรม ให้มีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีน้ำอุตสาหกรรม การจัดการน้ำเสียอย่างเหมาะสม กฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านมลพิษน้ำ และหลักเกณฑ์ข้อกำหนดอุตสาหกรรมสีเขียว
3. เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนให้ตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม การใช้น้ำอย่างคุ้มค่า และลดการระบายมลพิษลงสู่แหล่งน้ำ และการประกอบกิจการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามแนวทางอุตสาหกรรมสีเขียว
การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำ ดังนี้
1. การจัดทำผังกระบวนการผลิตและการจัดทำสมดุลน้ำในกระบวนการผลิตและกำหนดคุณภาพน้ำที่ต้องการในแต่ละขั้นตอน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถบ่งชี้จุดที่สามารถนำน้ำที่ผ่านการใช้งานแล้วไปใช้ซ้ำ (Reuse) แทนการใช้น้ำดิบ
2. การตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ (AS) โดยตรวจวัดการตกตะกอนของจุลินทรีย์ (SV30) กรณีพบตะกอนสีน้ำตาลเข้มที่บ่อเติมอากาศและมีกลิ่นไฮโดรเจนซัลไฟด์บริเวณระบบบำบัด แนะนำให้สูบตะกอนส่วนเกินออกจากระบบเพื่อไปกำจัด และตรวจวัดค่าออกซิเจนละลายน้ำ (DO) เพิ่มเติม
3. การทำ jar test หาปริมาณการเติมสารโพลีเมอร์ในปริมาณที่เหมาะสม โดยเติมในบ่อเติมอากาศหรือบ่อตกตะกอน จะช่วยให้เกิดการตกตะกอนได้เร็วขึ้นภายหลังจากการเติม Poly Aluminium Chloride: PAC
4. การตรวจวัดค่าความสกปรกของน้ำเสียจากกระบวนการ Reverse Osmosis: RO เพื่อพิจารณานำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตหรือนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
นอกจากนี้ ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดเก็บสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วให้เหมาะสม รวมถึงแนวทางในการยกกระดับโรงงานอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรมสีเขียวในระดับที่สูงขึ้น