วันที่ 14 มีนาคม 2568 นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมายให้ นางสาวนวพร สงวนหมู่ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคตะวันออก ร่วมปฏิบัติการทีมตรวจสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายบวรวิทย์ อัครจันทโชติ ผู้อำนวยการกองตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี (สอจ.ชลบุรี) ลงพื้นที่ติดตามกรณีเหตุลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมในไร่มันสำปะหลัง โฉนดที่ดินเลขที่ 23503 ตำบลหนองอิรุณ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 และสกัดจับรถขนส่งที่ลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมได้เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 โดยตรวจสอบเส้นทางการเดินรถพบการลักลอบทิ้งเพิ่มเติมในพื้นที่ตำบลหนองไผ่แก้ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี รวมทั้งข้อมูลการใช้บริการรถขนส่งเชื่อมโยงไปยังบริษัทผู้ก่อกำเนิด (Waste Generator) ในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 2 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงได้สั่งการให้ปรับปรุงแก้ไขตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 รวมทั้งตรวจสอบเพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีในข้อหานำกากอุตสาหกรรมออกจากพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนหน้านี้

ล่าสุด เจ้าหน้าที่สืบเบาะแสขยายผลพบข้อมูลบริษัทผู้รับดำเนินการกำจัดของเสีย (Waste Processor) อีก 2 แห่ง คือ 1) โรงงานของบริษัทเอกชนในพื้นที่ตำบลวัดสุวรรณ อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี ประกอบกิจการฝังกลบสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย และ 2) โรงงานของบริษัทเอกชนในพื้นที่ตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ประกอบกิจการนำกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียที่ไม่เป็นอันตราย และอินทรีย์วัตถุที่ไม่ใช้แล้วจากโรงงานมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ปุ๋ยอินทรีย์ สารปรับปรุงดิน ซึ่งทั้ง 2 บริษัทเป็นปลายทางรับของเสียจากบริษัทผู้ก่อกำเนิดที่ถูกสั่งการข้างต้น

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้พบว่า โรงงานของบริษัทผู้รับดำเนินการกำจัดของเสียในจังหวัดชลบุรี ได้รับกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียจากบริษัทผู้ก่อกำเนิด เข้ามาฝังกลบ ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ – 4 มีนาคม 2568 จำนวน 10 เที่ยว น้ำหนักกว่า 92 ตัน ส่วนโรงงานของบริษัทผู้รับดำเนินการกำจัดของเสียในจังหวัดระยอง ได้รับกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียจากจากบริษัทผู้ก่อกำเนิดเข้ามาทำสารปรับปรุงดิน ตั้งแต่วันที่ 15-21 กุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 19 เที่ยว น้ำหนักกว่า 152 ตัน ซึ่งก่อนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ได้ยอมรับว่ามีการได้รับกากตะกอนเข้ามาจัดการ แต่ไม่แสดงเอกสารให้กับพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบโดยอ้างว่าได้คืนเอกสารให้ผู้ก่อกำเนิดไปหมดแล้ว ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบข้อมูลเอกสารทั้งหมดพบว่า ทั้ง 2 แห่ง มีการดำเนินการไม่ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รับของเสียเข้ามาจัดการโดยของเสียดังกล่าวยังไม่ได้รับอนุญาต เป็นการฝ่าฝืนประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566 ขณะเดียวกัน หากตรวจพบมีการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบ ก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกด้วย

นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการเชิงรุกอย่างจริงจังในการเร่งตรวจสอบและขยายผลขบวนการที่เกี่ยวข้อง โดยสั่งให้บริษัทผู้ก่อกำเนิดต้องนำกากของเสียอุตสาหกรรมที่ตรวจพบลักลอบทิ้งในไร่มันสำปะหลังไปกำจัดให้ถูกต้อง เช่นเดียวกับบริษัทที่เป็นผู้รับจ้างขนส่งจะถูกดำเนินคดีใช้รถผิดเงื่อนไขการอนุญาต ส่วนความคืบหน้าที่มีการลักลอบทิ้งอีกแห่งในตำบลหนองอิรุณ ผลตรวจสอบดินและน้ำเสียในพื้นที่พบค่าโลหะหนัก เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 โดยบริษัทที่เป็นผู้รับจ้างขนส่งอาจจะถูกดำเนินคดีร่วมเป็นตัวการในการครอบครองวัตถุอันตรายดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเหตุให้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตและดำเนินคดีในทุกข้อหาการกระทำผิด พร้อมกันนี้ สอจ.ชลบุรี ได้แจ้งความดำเนินคดีแก่เจ้าของที่ดินในข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายแล้วเช่นกัน

กระทรวงอุตสาหกรรมจะนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับมาตรการควบคุมจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างเข้มงวด ลดปัญหาการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม และสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีให้ประชาชนในทุกพื้นที่ หากประชาชนพบเห็นปัญหาหรือเหตุต้องสงสัยเกี่ยวกับการประกอบการอุตสาหกรรมที่ไม่ถูกต้อง หรือโรงงานเถื่อน หรือโรงงานที่ทำให้เดือดร้อน สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนได้ที่แอปพลิเคชันไลน์ “แจ้งอุต” ภายใต้ Traffy Fondue (https://landing.traffy.in.th/?key=gmyeYDBV) เปิดรับเรื่องทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง



#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #DIW #MIND #กระทรวงอุตสาหกรรม #saveอุตสาหกรรมไทย #saveสิ่งแวดล้อม #แจ้งอุต #ร้องเรียน #TraffyFondue #ชลบุรี #กากอุตสาหกรรม #ลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม #หนองอิรุณ #หนองไผ่แก้ว #ระยอง