วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.30 น. นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ร่วมปฏิบัติการทีมตรวจสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบการประกอบกิจการโรงงานในตำบลบางหญ้าแพรก และตำบลกาหลง อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
จากการลงพื้นที่จุดแรก ในตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร พนักงานเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบเพื่อขยายผลหาข้อเท็จจริง กรณีพบกองเศษสายไฟและเศษสายไฟบดย่อยแล้ว กว่า 4,000 ตัน จากเหตุเพลิงไหม้อาคารโกดังเก็บสินค้าของโรงงานรีไซเคิลในตำบลยกกระบัตร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยตรวจค้นโรงงาน จำนวน 2 แห่ง ประเภทโรงงานลำดับที่ 105 มีการประกอบกิจการคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตราย เจ้าของโรงงานได้แสดงตนและยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น พบเศษพลาสติกสายไฟนำเข้าจากต่างประเทศ บางส่วนมีลักษณะคล้ายเศษพลาสติกสายไฟในโรงงานรีไซเคิลที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ข้างต้น
(1) โรงงานแห่งแรก มีกรรมการบริษัท 2 ราย สัญชาติจีน รายหนึ่งเป็นกรรมการบริษัทคนเดียวกันกับบริษัทที่พบป้ายชื่อโรงงานในที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ส่วนอีกรายเป็นคนเดียวกันกับโรงงานแห่งที่สอง
(2) โรงงานแห่งที่สอง อยู่ในพื้นที่ติดกัน มีกรรมการบริษัท 1 ราย สัญชาติจีน เจ้าหน้าที่ตรวจพบโรงงานมีการฝ่าฝืนกฎหมาย มีการลักลอบขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเดินเครื่องจักรที่เป็นการประกอบกิจการโรงงานบางส่วนโดยไม่แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ และพบกระบวนการล้างเศษพลาสติก ทั้งที่เงื่อนไขท้ายใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานกำหนด “ห้ามล้างเศษพลาสติก” นอกจากนี้ ยังพบการครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้น พนักงานเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดอายัดของกลาง พร้อมเข้าจับกุมกรรมการบริษัท เพื่อส่งตัวไปดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ขณะเดียวกัน จุดที่สอง ในตำบลกาหลง อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร พนักงานเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบติดตามความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากเหตุร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ โดยตรวจค้นโรงงาน จำนวน 1 แห่ง ประเภทโรงงานลำดับที่ 60 ประกอบกิจการถลุง ผสม ทำให้บริสุทธิ์ หลอม หล่อ รีด ดึง หรือผลิตโลหะในขั้นต้น สำรวจพบร่องรอยการประกอบกิจการโรงงาน เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งให้โรงงานระงับการประกอบกิจการชั่วคราวเพื่อปรับปรุงแก้ไข ตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง รวมทั้งไม่พบลวดผูกมัดที่เคยประทับตราเครื่องจักรให้หยุดทำงาน และมีการลักลอบเดินเครื่องจักร เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามให้เครื่องจักรทำงาน ตามมาตรา 37 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 นอกจากนี้ ยังตรวจพบถุงบรรจุแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (Printed Circuit Board: PCB) จำนวนหลายถุง อีกทั้งกองวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ภายในบริเวณโรงงาน เช่น เศษชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เศษโลหะต่าง ๆ ที่เคยยึดอายัดไว้ได้หายไปบางส่วน และอาจมีการนำวัตถุดิบใหม่เข้ามาเพิ่มเติม พนักงานเจ้าหน้าที่จึงเก็บตัวอย่างวัตถุและของเหลวภายในบริเวณโรงงาน จำนวน 6 ตัวอย่าง เพื่อนำไปตรวจ วัด วิเคราะห์ ประกอบเป็นข้อมูลหลักฐานประกอบการดำเนินคดีต่อไป
สำหรับทีมตรวจสุดซอยในวันนี้ นำโดย นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเตมีย์ พันธุวงศ์ราช ผู้อำนวยการกองตรวจราชการสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ประกอบด้วย กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม และศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคตะวันตก ร่วมด้วย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และมูลนิธิบูรณะนิเวศ
ทั้งนี้ หากประชาชนพบปัญหาอุตสาหกรรม โรงงานเถื่อน โรงงานที่ทำให้เดือดร้อน สามารถแจ้งเรื่องได้ที่แอปพลิเคชันไลน์ “แจ้งอุต” ภายใต้ Traffy Fondue (https://landing.traffy.in.th/?key=gmyeYDBV) เปิดรับเรื่องทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง แจ้งง่าย ทันใจ โปร่งใส หยุดทุกปัญหาอุตสาหกรรม เพราะพวกเรารับฟังทุกเสียง แก้ไขทุกปัญหา เพื่ออุตสาหกรรมที่ยั่งยืน
#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #DIW #MIND #กระทรวงอุตสาหกรรม #saveอุตสาหกรรมไทย #saveสิ่งแวดล้อม #ตรวจสุดซอย #ไฟไหม้ #ไฟไหม้โรงงาน #ไฟไหม้สมุทรสาคร #ขยะอิเล็กทรอนิกส์ #สมุทรสาคร