วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมายให้ กองส่งเสริมเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมโรงงาน นำโดยนายชยกร คชเสนีย์ ผู้อำนวยการกลุ่มเทคโนโลยีการป้องกันมลพิษ เป็นหัวหน้าคณะผู้ตรวจประเมิน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกองส่งเสริมเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมโรงงานและกองพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อตรวจประเมินต่ออายุการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ของบริษัท วายเคเค (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบกิจการ ผลิตซิปรูดโลหะ ซิปรูดพลาสติก และทอแถบผ้า ผลิตกระดุมโลหะและผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับ เครื่องนุ่งห่ม และเครื่องใช้ต่างๆ เพื่อพิจารณาความสอดคล้องกับเกณฑ์อุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture)
จากการตรวจประเมินในครั้งนี้ พบว่า บริษัท วายเคเค (ประเทศไทย) จำกัด มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและอยู่คู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน และตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาภาวะโลกร้อน โดยผู้บริหารสูงสุดขององค์กรมีการกำหนดเป้าหมายการดำเนินธุรกิจขององค์กรอ้างอิงจากโครงการริเริ่มเป้าหมายที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets initiative) หรือ SBTi ที่มุ่งเน้นการลดและป้องกันมลภาวะที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจ ที่สอดคล้องกับกฎหมาย และไม่ส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย รวมทั้งมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนกำหนดเป้าหมายที่จะดำเนินการให้ได้ภายในปี ค.ศ. 2030 (เมื่อเทียบปีฐาน ปี ค.ศ. 2018) ได้แก่ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรใน SCOPE 1 และ 2 ร้อยละ 50 การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรใน SCOPE 3 ร้อยละ 30 การลดปริมาณของเสียโดยรวมลงร้อยละ 4 และการปริมาณการใช้น้ำลดลงร้อยละ 2
บริษัทฯ ได้รับการรับรองระบบการจัดการตามมาตรฐานสากล ได้แก่ ISO 14001:2015, ISO 45001:2018, ISO 9001:2015, IATF 16949, ISO 27001, มรท. 8001, HIGG – FEM, HIGG-FSLM, ZDHC- Gateway และ ใบรับรอง OEKO-TEX มีกิจกรรมส่งเสริมการสร้างความมีส่วนร่วมและจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และพลังงานให้กับพนักงานในทุกระดับ ได้แก่ การแจกการ์ดนโยบาย กิจกรรม KYT จดหมายข่าว YKK News Morning Talk ตรวจความปลอดภัยและ 5 ส เป็นประจำทุกเดือน และการรณรงค์ประหยัดน้ำประหยัดไฟผ่านการประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย เป็นต้น และบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัยและความปลอดภัย เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต สภาพแวดล้อมในการทำงาน การลดการใช้พลังงาน และลดมลพิษที่เกิดจากการประกอบกิจการ เช่น การเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูง การขยายการติดตั้ง Solar Roof การปรับปรุงระบบบำบัดอากาศ Wet Scrubber และปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น ซึ่งการดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมดังกล่าว ทำให้องค์กรสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2566 อยู่ที่ 860.74 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (Ton CO2 eq) เมื่อเทียบกับปีฐาน 2565
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรมร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น การร่วมกับบริษัทข้างเคียงเก็บขยะริมชายทะเลบางปูและปลูกต้นไม้บริเวณป่าชายเลน การมอบทุนการศึกษาระดับปฐมศึกษาให้โรงเรียนรอบข้างโรงงาน ส่งเสริมกีฬาให้เยาวชน (คลินิกฟุตบอล) สนับสนุนให้ชุมชนมาขายสินค้าในบริษัทฯ และ บริจาคข้าวสารให้กับชุมชนรอบข้าง เป็นต้น
ทั้งนี้ คณะผู้ตรวจประเมิน ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการยกระดับอุตสาหกรรมสีเขียวในระดับที่สูงขึ้น และการปรับปรุงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบันเพิ่มเติมอีกด้วย
#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #กระทรวงอุตสาหกรรม #DIW #MIND #saveอุตสาหกรรมไทย #saveสิ่งแวดล้อม