You are currently viewing รองอธิบดีกรมโรงงานฯ เข้าตรวจติดตามพื้นที่ บ. เอกอุทัย (สาขาอุทัย) หลังว่าจ้าง บ. ทีเออาร์เอฟ กำจัด / บำบัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว หรือของเสียเคมีวัตถุ ในพื้นที่อำเภออุทัย
รองอธิบดีกรมโรงงานฯ เข้าตรวจติดตามพื้นที่ บ. เอกอุทัย (สาขาอุทัย) หลังว่าจ้าง บ. ทีเออาร์เอฟ กำจัด / บำบัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว หรือของเสียเคมีวัตถุ ในพื้นที่อำเภออุทัย

วันที่ 2 ตุลาคม 2567 นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าตรวจติดตามพื้นที่ บริษัท เอกอุทัย จำกัด (สาขาอุทัย) อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยหลังจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ว่าจ้างบริษัท ทีเออาร์เอฟ จำกัด กำจัด / บำบัด สิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว หรือของเสียเคมีวัตถุที่ตกค้างในพื้นที่ที่มีการลักลอบทิ้งหรือจัดการที่ไม่เหมาะสมในพื้นที่อำเภออุทัย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจัดการตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานบังคับคดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปลัดอำเภออุทัย ปกครองส่วนท้องถิ่น อบต.สามบัณฑิต สาธารณสุขอำเภออุทัย สถานีตำรวจภูธรอุทัย และบริษัทเอกชน ร่วมกันตรวจพื้นที่

นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม
นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม
รองอธิบดีกรมโรงงานฯ เข้าตรวจติดตามพื้นที่ บ. เอกอุทัย (สาขาอุทัย) หลังว่าจ้าง บ. ทีเออาร์เอฟ กำจัด / บำบัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว หรือของเสียเคมีวัตถุ ในพื้นที่อำเภออุทัย
รองอธิบดีกรมโรงงานฯ เข้าตรวจติดตามพื้นที่ บ. เอกอุทัย (สาขาอุทัย) หลังว่าจ้าง บ. ทีเออาร์เอฟ กำจัด / บำบัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว หรือของเสียเคมีวัตถุ ในพื้นที่อำเภออุทัย

ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าหลังคาด้านบนและผนังอาคาร 106 (3) ถูกกัดกร่อนซึ่งเป็นสภาพที่อาจไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อผู้ที่จะเข้าไปดำเนินการจัดการวัตถุอันตราย กรณีนี้ส่งผลให้การดำเนินการจัดการวัตถุอันตรายเกิดความล่าช้า ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบปัญหานี้แล้ว จะนำไปจัดการตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบกับสำนักงานบังคับคดีฯ ในเบื้องต้น ได้รับแจ้งว่า ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของ บ. เอกอุทัย (สาขาอุทัย) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ยในชั้นบังคับคดีและอาจมีการนำที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของบริษัทฯ ขายทอดตลาดในอนาคต โดยคดีนี้มี บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เป็นโจทก์ อีกทั้งที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวยังเป็นทรัพย์จำนองในสัญญาจำนองซึ่งมีธนาคารกรุงไทย จำกัด สำนักงานใหญ่ เป็นเจ้าหนี้จำนอง ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการแจ้งผลการตรวจสอบแก่ ธนาคารกรุงไทย (เจ้าหนี้จำนอง) บมจ. เอสจี แคปปิตอล (โจทก์) และบ. เอกอุทัย (สาขาอุทัย) (จำเลย) ทราบต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่มิได้ทำให้ทรัพย์สินของ บริษัทฯ เสียหายแต่อย่างใด

ผลการตรวจสอบพบว่าหลังคาด้านบนและผนังอาคาร 106 (3) ถูกกัดกร่อนซึ่งเป็นสภาพที่อาจไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อผู้ที่จะเข้าไปดำเนินการจัดการวัตถุอันตราย
ผลการตรวจสอบพบว่าหลังคาด้านบนและผนังอาคาร 106 (3) ถูกกัดกร่อนซึ่งเป็นสภาพที่อาจไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อผู้ที่จะเข้าไปดำเนินการจัดการวัตถุอันตราย
ผลการตรวจสอบพบว่าหลังคาด้านบนและผนังอาคาร 106 (3) ถูกกัดกร่อนซึ่งเป็นสภาพที่อาจไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อผู้ที่จะเข้าไปดำเนินการจัดการวัตถุอันตราย
ผลการตรวจสอบพบว่าหลังคาด้านบนและผนังอาคาร 106 (3) ถูกกัดกร่อนซึ่งเป็นสภาพที่อาจไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อผู้ที่จะเข้าไปดำเนินการจัดการวัตถุอันตราย
ผลการตรวจสอบพบว่าหลังคาด้านบนและผนังอาคาร 106 (3) ถูกกัดกร่อนซึ่งเป็นสภาพที่อาจไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อผู้ที่จะเข้าไปดำเนินการจัดการวัตถุอันตราย
ผลการตรวจสอบพบว่าหลังคาด้านบนและผนังอาคาร 106 (3) ถูกกัดกร่อนซึ่งเป็นสภาพที่อาจไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อผู้ที่จะเข้าไปดำเนินการจัดการวัตถุอันตราย
รองอธิบดีกรมโรงงานฯ เข้าตรวจติดตามพื้นที่ บ. เอกอุทัย (สาขาอุทัย) หลังว่าจ้าง บ. ทีเออาร์เอฟ กำจัด / บำบัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว หรือของเสียเคมีวัตถุ ในพื้นที่อำเภออุทัย
รองอธิบดีกรมโรงงานฯ เข้าตรวจติดตามพื้นที่ บ. เอกอุทัย (สาขาอุทัย) หลังว่าจ้าง บ. ทีเออาร์เอฟ กำจัด / บำบัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว หรือของเสียเคมีวัตถุ ในพื้นที่อำเภออุทัย

#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #กระทรวงอุตสาหกรรม #DIW #MIND #เอกอุทัย #saveอุตสาหกรรมไทย #saveสิ่งแวดล้อม #saveอุตสาหกรรมไทย