เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 เวลา 10.30 น. นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามการลักลอบฝังกลบและกักเก็บกากอุตสาหกรรมในพื้นที่ป่าที่อยู่ในการควบคุมของกรมป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 บริเวณด้านหลังโรงงาน บริษัท เอกอุทัย จำกัด สาขากลางดง ตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพ ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นางจินดา เตชะศรินทร์ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม นายสุนทร แก้วสว่าง ผู้อำนวยการกองกฎหมาย นายปณตสรรค์ สูจยานนท์ ผู้อำนวยการกองบริการงานอนุญาตโรงงาน 1 นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.3 บก.ปทส.) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.1 (ปากช่อง) ปลัดอำเภอปากช่อง นายกเทศมนตรีตำบลสีมามงคล เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรกลางดง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้
นายจุลพงษ์ เผยว่า บริษัท เอกอุทัย จำกัด สาขากลางดง ประกอบกิจการผลิตปูนขาว และเผาสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วในเตาเผาปูนขาว แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีการครอบครองของเสียอันตราย ของเสียเคมีวัตถุ และของเสียอื่น ภายในอาคารจำนวน 3 หลัง ซึ่งได้เก็บตัวอย่างของเสียนำไปตรวจวิเคราะห์ทดสอบทางห้องปฏิบัติการเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าของเสียดังกล่าวจัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามบัญชี 5.2 ของเสียเคมีวัตถุ (Chemical Waste) บัญชีรายชื่อวัตถุอันตรายแนบท้ายประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 ซึ่งถือเป็นการครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535
อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงสั่งการเจ้าหน้าที่ยึดอายัดของเสียอันตรายทั้งหมด ประกอบด้วย ของเสียทั้งของแข็งและของเหลว ได้แก่ น้ำมันใช้แล้วลักษณะหนืดสีน้ำตาล เถ้า เศษตะกอน น้ำเสียปนเปื้อนน้ำมัน กากสี เรซิ่นดูดซับ และกากเจล บรรจุในถังขนาด 200 ลิตร จำนวน 503 ถัง รวมทั้งของเสียของแข็งและตะกอนดินปนเปื้อน 36 ตัน ถังเปล่าปนเปื้อน 2 ถัง พาเลทไม้ 39 ชิ้น ตะกอนในบ่อซีเมนต์ 315.35 ลูกบาศก์เมตร และหลอดนีออน 460 หลอด เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายวัตถุอันตรายและสิ่งของอื่นๆ หรือดำเนินการที่ขัดต่อกฎหมายโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนจะมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535
จากนั้น เวลา 15.30 น. อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมคณะ เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรกลางดง เพื่อลงบันทึกประจำวัน ร้องทุกข์กล่าวโทษให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ บริษัท เอกอุทัย จำกัด และผู้แทนนิติบุคคล ในความผิดฐานครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ จะรวบรวมพยานเอกสารหลักฐาน เพื่อนำส่งข้อมูลให้ บก.ปทส. ดำเนินการสืบสวนเชื่อมโยงกับการกระทำความผิดในกรณีอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป
#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #DIW #MIND #กระทรวงอุตสาหกรรม #อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา #บริษัทเอกอุทัยจำกัด #เอกอุทัย #กากอุตสาหกรรม #ลักลอบทิ้งกาก #เอกอุทัยกลางดง