วันที่ 21 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 น. นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมและผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าฟังคำพิพากษาคดีอาญาต่อศาลจังหวัดลพบุรี ในคดีการลักลอบกองและฝังกลบกากอุตสาหกรรมซึ่งเข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย จำนวน 26,880 ตัน บนพื้นที่บ่อดินเก่าของเอกชน ในซอย 11 หมู่ที่ 4 ถนนสายโท-สายจัตวา ตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบการกระทำความผิดเมื่อปี พ.ศ. 2564
ศาลจังหวัดลพบุรี ได้อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ ที่ 418/2567 พนักงานอัยการจังหวัดลพบุรีเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย 3 ราย ได้แก่ นายสุเทพ ขวัญดา เจ้าของที่ดิน (ลักลอบนำกากอุตสาหกรรมเข้ามาทิ้งและฝังกลบในที่ดินตนเอง) เป็นจำเลยที่ 1 บริษัท ศีวัช ขนส่ง จำกัด ผู้ขนส่งกากอุตสาหกรรม เป็นจำเลยที่ 2 และนายพิศิษฐ์ เพิ่มศิริธัญพร กรรรมการบริษัทฯ เป็นจำเลยที่ 3 ซึ่งใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 30 นาที จำเลยทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหาและมีเจตนาจะแก้ไขปัญหา ศาลจังหวัดลพบุรีจึงเบาโทษโดยลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือคำพิพากษา ดังนี้
จำเลยที่ 1 มีความผิดในข้อหาตั้งโรงงานและประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 ประเภทฝังกลบ โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีความผิดข้อหาร่วมกันครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้ลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 80,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และให้ไปรายงานตัวต่อกรมคุมประพฤติ ทำงานเพื่อสังคม 24 ชั่วโมง
จำเลยที่ 2 ในฐานะนิติบุคคล มีความผิดข้อหาร่วมกันครอบครองวัตถุอันตรายฯ ให้ปรับ 40,000 บาท
จำเลยที่ 3 ในฐานะกรรมการบริษัทฯ มีความผิดข้อหาร่วมกันครอบครองวัตถุอันตรายฯ ให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 40,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และให้ไปรายงานตัวต่อกรมคุมประพฤติ ทำงานเพื่อสังคม 24 ชั่วโมง
ในส่วนคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา ศาลตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วเห็นว่ากรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักในการจัดการของเสียในคดีตามที่ได้ประเมินไว้ ศาลจึงมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้ง 3 ราย ร่วมกันชำระค่าใช้จ่ายในคดีแพ่งให้แก่กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรณีที่มีการกำจัดกากของเสียที่ฝังกลบไว้ รวมเป็นเงิน 124.9 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จำเลยมีสิทธิยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาภายใน 1 เดือน นับแต่วันอ่านคำพิพากษา
จากนั้น เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม เดินทางไปยังที่ดินที่ลักลอบกองและฝังกลบกากอุตสาหกรรมในพื้นที่ข้างต้น เพื่อสำรวจสภาพพื้นที่จริง โดยภายหลังจากนี้จะตรวจสอบติดตามและรวบรวมข้อเท็จจริงเพิ่มเติม หากพบว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับคดีนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อขอให้มีการดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่งกับกลุ่มบุคคลนั้นเพิ่มเติมอย่างเด็ดขาดต่อไป
#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #DIW #MIND #กระทรวงอุตสาหกรรม #saveอุตสาหกรรมไทย #saveสิ่งแวดล้อม #ดีลัง #ลพบุรี #ลักลอบทิ้งกาก #กากอุตสาหกรรม #วัตถุอันตราย