วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ลงพื้นที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรวจค้น บริษัท เอกอุทัย จำกัด ตำบลสามบัณฑิต และพื้นที่ที่มีการลักลอบเททิ้งสารเคมีอันตรายในพื้นที่ ตำบลข้าวเม่า อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นางจินดา เตชะศรินทร์ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม (กกอ.กรอ.) กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมกับ ปลัดอำเภออุทัย ผู้กำกับการ ๒ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอุทัย เจ้าหน้าที่กองกำลังบูรพา 491 เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลข้าวเม่า เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลสามบัณฑิต อสจ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมตรวจค้น
โดยก่อนเข้าดำเนินการตรวจค้นได้มีการประชุมหารือแผนการเข้าตรวจค้น ณ สถานีตำรวจภูธรอุทัย ด้วย กรมโรงงานฯ ได้รับข้อมูลว่า ภายในพื้นที่ของบริษัท เอกอุทัย จำกัด (สาขาอุทัย) ยังมีจุดที่มีการลักลอบฝังสารเคมีอันตราย และกากอุตสาหกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก อันเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และยังได้รับข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษว่ามีการลักลอบนำสารเคมีอันตรายและกากอุตสาหกรรมไปเททิ้งไว้ในพื้นที่บ่อดิน หมู่ที่ 13 และหมู่ที่ 14 ตำบลข้าวเม่า อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับคดีของ บริษัท เอกอุทัย จำกัด จึงนำมาสู่การขอหมายค้นศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวในวันนี้
เวลา 10:30 น. อธิบดีกรมโรงงานฯ นำทีมเจ้าหน้าที่พร้อมหมายค้นเข้าตรวจค้นพื้นที่ เอกอุทัย (สาขาอุทัย) โดยใช้รถแบคโฮขุดหลุมด้านข้างอาคาร 106(3) จำนวน 3 จุด พบกากตะกอนสีดำและของเหลวหลายสีปะปนกันโดยมีกลิ่นฉุนรุนแรงถูกบรรจุอยู่ในถังพลาสติกขนาด 150 ลิตร โดยถูกลักลอบฝังกลบไว้ใต้พื้นที่ว่างของบริษัทฯ เป็นจำนวนมาก ต่อมา เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจค้นด้านหลังบริษัทฯ ที่เคยขุดไปก่อนหน้านี้ โดยทำการขุดเพิ่มเติมบริเวณลานพื้นที่ดินจำนวน 4 จุด พบกากตะกอนสีดำมีกลิ่นฉุน ถังพลาสติกบรรจุสารเคมี และพบของเหลวข้นสีดำมีกลิ่นฉุนรุนแรง โดยเมื่อตักขึ้นมาของเหลวทำปฏิกิริยากับอากาศจนมีควันลอยขึ้นและมีกลิ่นฉุนแสบจมูก เจ้าหน้าที่กรมโรงงานฯ จึงได้เก็บตัวอย่างจากทุกจุดเพื่อทำการตรวจวัดวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ
เวลา 16:10 น. อธิบดีกรมโรงงานฯ นำทีมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ที่มีการลักลอบเททิ้งกากสารเคมีอันตรายในพื้นที่ หมู่ 13 ตำบลข้าวเม่า พบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ มีบ่อดินขนาดประมาณ กว้าง 15 เมตร ยาว 70 เมตร ลึก 2 เมตร ภายในบรรจุของเหลวสีดำ มีกลิ่นเหม็นและพืชตายในบ่อ ซึ่งบ่อดินดังกล่าวสันนิฐานว่า เดิมเคยเป็นคลองสาธารณะ (คลองด้วน) แต่มีการทำคันดินใหม่โดยรอบเป็นบ่อขึ้นมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กรมโรงงานฯ ได้ตรวจวัดด้วย Universal indicator พบค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) = 1 และได้มีการเก็บตัวอย่างดินและน้ำในบ่อดังกล่าวมาตรวจ วัด วิเคราะห์เพื่อทำการตรวจวัดวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ
เวลา 17:20 น. อธิบดีกรมโรงงานฯ นำทีมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ที่มีการลักลอบเททิ้งกากสารเคมีอันตรายในพื้นที่ หมู่ 14 ตำบลข้าวเม่า พบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ่อดิน ประมาณ 1 ไร่ ภายในบ่อมีน้ำที่ลักษณะสีดำ เจ้าหน้าที่กรมโรงงานฯ ได้ตรวจวัดด้วย Universal indicator พบค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) = 3-4 และได้มีการเก็บตัวอย่างดินและน้ำในบ่อดังกล่าวมาตรวจ วัด วิเคราะห์เพื่อทำการตรวจวัดวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการต่อไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ กกอ.กรอ. ได้ไปลงบันทึกประจำวัน ณ สถานีตำรวจภูธรอุทัย ไว้เป็นหลักฐานสำหรับดำเนินคดีต่อไป
#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #DIW #MIND #กระทรวงอุตสาหกรรม #สถานีตำรวจภูธรอุทัย #สถานีตำรวจภูธรภาชี #อุทัย #จังหวัดพระนครศรีอยุธยา #กากอุตสาหกรรม