เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 เวลา 14.30 น. นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการจัดการกากอุตสาหกรรมในพื้นที่อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายศุภกิจ บุญศิริ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นางจินดา เตชะศรินทร์ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่กองพัฒนาระบบมาตรฐานงานกำกับโรงงาน เจ้าหน้าที่กองวิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงาน ร่วมด้วย นางสาวอภิสรา เกษอินทร์ นายอำเภอภาชี นายธีระ แก้วพิมล อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พลตำรวจตรี วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้แทนกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 2 ที่ทำการปกครองอำเภอภาชี ถนนสุวรรณศร ตำบลภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
การประชุมในครั้งนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ชี้แจงความก้าวหน้าจากการลงพื้นที่ตรวจติดตามสภาพบริเวณที่มีการลักลอบกักเก็บและเททิ้งกากอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566 จำนวน 4 แห่ง ได้แก่
- โกดังเก่าไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ ในอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- พื้นที่บ่อดินเอกชน จำนวน 6 บ่อ ในตำบลโคกม่วง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- พื้นที่นาริมถนนทางหลวง ในตำบลพระแก้ว อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- พื้นที่เอกชน (สระรูปตัว U) ในตำบลไผ่ล้อม อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ที่ประชุมเห็นควรให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนรำคาญด้วยความรวดเร็ว โดยหารือถึงการเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ครบถ้วน อีกทั้งร่วมพิจารณาแนวทางการจัดการของเสียที่ยังคงตกค้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่โกดังเก่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของเสียอันตรายมีฤทธิ์เป็นกรดที่เมื่อฝนตกแล้วอาจรั่วไหล ส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน ตามข้อเสนอของกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในความจำเป็นต้องเร่งจัดเก็บ (clean up) น้ำเสียปนเปื้อนสารเคมีที่รั่วไหลในพื้นที่โกดังและบริเวณรอบโกดังอีกครั้ง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายสู่แหล่งน้ำสาธารณะของชุมชนก่อนจะนำไปกำจัดบำบัดตามหลักวิชาการต่อไป
ต่อมา เวลา 17.00 น. นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายศุภกิจ บุญศิริ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสภาพพื้นที่โกดังเก่าไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ จำนวน 5 หลัง ตั้งอยู่ในอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีการลักลอบเก็บสารเคมีวัตถุอันตรายหลายชนิด ราว 4,000 ตัน ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในการจัดเก็บ (clean up) น้ำเสียปนเปื้อนสารเคมีที่รั่วไหลในพื้นที่โกดังและบริเวณรอบโกดัง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2566 โดยปัจจุบันพบว่าบริเวณลำรางสาธารณะริมถนนแขวงทางหลวงด้านหน้าโกดัง และบ่อดินภายในโกดัง ขนาดกว้าง 1,200 ตารางเมตร ลึก 5 เมตร ที่มีน้ำเสียมีฤทธิ์เป็นกรดในบ่อประมาณ 6,000 ลูกบาศก์เมตร มีลักษณะสีดำคล้ำ อีกทั้งสำรวจพบหลังคาโกดังชำรุดเป็นรอยรั่ว มีการไหลซึมของกากอุตสาหกรรมในโกดังที่จัดเก็บน้ำเสียปนเปื้อนอีกด้วย
จากนั้น เวลา 18.00 น. เดินทางไปยังบ่อดินเอกชน ในตำบลโคกม่วง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นที่ดินเอกชน โฉนด 3 งาน 46 ตารางวา ลักษณะพื้นที่มีหญ้าปกคลุมรกร้าง มีบ่อดินต้องสงสัย จำนวน 6 บ่อ ขนาดพื้นที่บ่อรวมประมาณ 120 ตารางเมตร ภายในบ่อมีของเหลวข้นสีดำมีกลิ่นเหม็นสารเคมี นอกจากนี้ ยังพบว่าบริเวณริมบ่อกักเก็บน้ำใกล้ ๆ กัน ได้ตรวจพบถุงบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนขนาดใหญ่หรือบิ๊กแบ็ก (Big Bag) จำนวนมาก ภายในบรรจุของแข็งลักษณะเป็นก้อน และผงสีดำปนเทาและสีน้ำตาล มีกลิ่นสารเคมี ซึ่งคาดว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับกรณีลักลอบเก็บสารเคมีวัตถุอันตรายหลายชนิดภายในโกดังอำเภอภาชี เนื่องจากพื้นที่อยู่ห่างจากโกดังดังกล่าวเพียง 3 กิโลเมตร
#กรมโรงงานอุตสาหกรรม #กรมโรงงาน #กรอ #DIW #MIND #กระทรวงอุตสาหกรรม #อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา #สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย #พระราชบัญญัติโรงงาน #พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย #กากอุตสาหกรรม #ของเสียอันตราย #โกดังภาชี #PolluterPaysPrinciple #Liability